การให้อาหารเปียก (wet food) แก่แมวเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในร่างกายของแมว โดยเฉพาะแมวที่ไม่ชอบดื่มน้ำมาก อาหารเปียกมีน้ำส่วนผสมสูงถึง 70-80% ซึ่งจะช่วยให้แมวได้รับความชุ่มชื้นจากอาหาร เมื่อให้อาหารเปียกทุกวันหรือ 1-2 ครั้งต่อวัน จะช่วยเพิ่มน้ำในร่างกายของแมวได้จริง และช่วยป้องกันปัญหาทางเดินปัสสาวะหรือไตได้

การผสมอาหารเปียกกับอาหารเม็ด (dry food) เป็นวิธีที่ดี เพราะแต่ละประเภทมีข้อดีที่แตกต่างกัน อาหารเปียกจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แมว และอาหารเม็ดจะช่วยให้แมวได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน รวมถึงช่วยขัดฟันจากการเคี้ยว การผสมอาหารทั้งสองแบบยังช่วยให้แมวไม่เบื่อและกระตุ้นความอยากอาหาร ควรให้อาหารเปียกประมาณ 50-70% ของอาหารที่แมวกินในแต่ละวัน และให้ส่วนที่เหลือ 30-50% เป็นอาหารเม็ด เพื่อให้แมวได้รับสารอาหารครบถ้วนและมีความสมดุล โดยเฉพาะถ้าแมวไม่ค่อยดื่มน้ำ ควรให้ความสำคัญกับอาหารเปียกมากขึ้น ​

You should aim to feed your cat 50-70% wet food of their daily diet, and the remaining 30-50% should be dry food to ensure a balanced and complete nutrient intake. If your cat doesn’t drink much water, you should focus more on feeding wet food.

ส่วนผสมที่ไม่ควรเลือกในอาหารเปียก:

• BHA และ BHT - สารกันบูดที่อาจเป็นอันตราย
• สีสังเคราะห์ - เช่น Red 40, Yellow 5 ซึ่งไม่จำเป็นและอาจเป็นอันตราย
• ข้าวโพด - แมวย่อยข้าวโพดไม่ได้ดี ควรหลีกเลี่ยง
• น้ำตาล - น้ำตาลอาจทำให้แมวอ้วนและเสี่ยงโรคเบาหวาน
• เกลือ - การบริโภคเกลือมากเกินไปไม่ดีต่อไตของแมว.

การให้อาหารเปียกทุกวันช่วยเพิ่มน้ำให้กับแมว โดยเฉพาะแมวที่ไม่ดื่มน้ำมาก ควรผสมอาหารเปียกกับอาหารเม็ดเพื่อให้แมวได้รับสารอาหารครบถ้วน ควรให้อาหารเปียก 50-70% และอาหารเม็ด 30-50% ของอาหารทั้งหมด และเลือกอาหารที่มีคุณภาพดี ไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อแมว